ขั้นที่สอง ใส่ เลขบัตรเครดิต

      การ Add บัตรเครดิต (หรือบัตรอื่นที่แทนบัตรเครดิตได้) นั้นทำเพื่อยืนยันความมีตัวตนของเราค่ะเพราะเค้าไม่ได้ตรวจเช็คบัตรประชาชน (ด้วยความเป็นสากลวนเงินไปทั่วโลกของ paypal นั่นเอง !)
       PayPal มีใช้วิธีเช็คการมีตัวตนของคนที่ไม่ได้อยู่อเมริกา ด้วยบัตรเครดิตแทนพอเรายืนยันแล้ว สถานะบัญชีของเราก็จะเป็น Verify และสามารถใช้งาน PayPal ได้คล่องปรี๊ด คล่องปรี๊ด

ถ้าเพิ่ง log in มาใหม่ๆ ไม่ได้ทำต่อจากขั้นแรก ก็อย่ากังวลไป คลิกที่ Add Credit Card ด้านซ้ายมือโลด

ถ้าทุกอย่างเป็นใจแล้ว ก็กรอกเลขบัตรเครดิต หรือพวกบัตรK-webcard, บัตร B-first ให้ครบค่ะ

First Name ชื่อของผู้ถือบัตร
Credit Card Number คือ เลขบัตร 16 หลัก *กรอกเลข ไม่ต้องใส่เว้นวรรค ไม่ต้องใส่ขีด
Expiration Date วันหมดอายุของบัตร
Card Type ของ K-Web Card, Be1st, A-plus เป็น VISA Card Verification Number คือ CVV ของบัตร K-web ( ถ้าเป็นบัตรเครดิต คือ เลข 3 ตัวท้ายของหลังบัตร)

•  ถ้าขึ้นข้อความ You have successfully......แสดงว่ากรอกบัตรผ่านแล้ว
• ถ้าเกิดขึ้นกรอบที่มีเครืองหมายอัศ-สะ-เจ-รอ-อี-กา-รัน-ยอ (อัศเจรีย์ = !!!!) เยี่ยงนี้...

  แน่นอนว่าไม่ผ่านนนน ต้องแก้ปัญหาตามที่เค้าแจ้งมาค่ะ ลองดูว่าในกรอบเหลือง ๆเขียนว่าอะไร ก็แก้ไปตามนั้น ตามนี้ ...

หากกรอกเลขบัตรผ่าน ก็จะพบหน้านี้ ให้ทำการกด Save and Contiue ได้เลย

เป็นการคอนเฟริมบัตร ทาง PayPal จะทดสอบตัดเงินจากบัตรคุณ $1.95 หรือประมาณ 60-70 บาท เพื่อทดสอบบัตร (แต่จะได้คืนเป็นโบนัสภายหลัง เมื่อทำรายการเสร็จ)